Google+

เอสทีไรซิ่ง คว้า รางวัลมาตรฐาน CSR-DIW จากกระทรวงอุตสาหกรรม

วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555 กรมโรงงานอุตสาหกรรม มอบโล่และเกียรติบัตรรับรองการปฏิบัติตามมาตรฐานความรับผิดชอบของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่อสังคม (CSR-DIW) ประจำปี 2555s แก่ นาย สันติ พรหมศร ผู้แทนบริษัท เอส.ที.ไรซิ่ง จำกัด ตอกย้ำภาพลักษณ์การดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม แสดงออกถึงความสามารถในการพัฒนาธุรกิจสู่มาตรฐานสากล ณ อิมแพค เมืองทองธานี ทุกวันนี้ แนวคิดเรื่องการทำธุรกิจ หรือการเป็นอุตสาหกรรมที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility) ซึ่งหมายรวมถึงการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่เป็นที่ยอมรับได้ว่า “เป็นกติกาโลก” ทั้งผู้ประกอบการที่ทันสมัยมีความตระหนัก และผู้บริโภคที่ห่วงใยตัวเองและปรารถนาดีต่อส่วนรวมจะเลือกคบค้าสนับสนุนกิจการที่ดีมี CSR ดังกล่าวข้างต้น การปรับตัวของผู้ประกอบการที่ใฝ่ดีและการกำหนดกฎกติกาผลักดันและมาตรการส่งเสริมจากหน่วยราชการที่กำกับดูแลก็เริ่มเกิดขึ้น ในทางสากลกระแส หรือแนวโน้มของมาตรฐานใหม่ๆ ที่มีการประกาศใช้ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการ หรือโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งจะมุ่งเน้นในเรื่องความปลอดภัย สุขอนามัย การส่งเสริมและปกป้องธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์และประหยัดพลังงาน การคุ้มครองแรงงาน สิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษยชน ความรับผิดชอบต่อสังคม การสร้างนวัตกรรม และการพัฒนาความเป็นอยู่ของมนุษย์เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน น่ายินดีที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งมีภารกิจหลักในการกำกับดูแลและผลักดันให้ธุรกิจอุตสาหกรรมดำเนินการและพัฒนาไปอย่างยั่งยืน โดยเน้นด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และเป็นที่ยอมรับของสากลก็ได้เริ่มเตรียมเรื่องนี้ตั้งแต่ ปี 2552 โดยการส่งเสริมโรงงานอุตสาหกรรม ให้มีการแสดงจุดยืนความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสังคมควบคู่ไปกับการเสริมสร้างประสิทธิภาพและการเติบโตทางธุรกิจเพื่อปรับตัวเข้าสู่มาตรฐานระหว่างประเทศว่าด้วยการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างเป็นระบบ จึงได้มีประกาศ “มาตรฐานความรับผิดชอบของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่อสังคม พ.ศ.2552” และได้จัดทำโครงการการส่งเสริมการแสดงความรับผิดชอบของโรงงานอุตสาหกรรมต่อสังคม (Corporate Social Responsibility,Department of Industrial Works: CSR-DIW) เป็นการอิงตามข้อกำหนดขององค์กรระหว่างประเทศว่าด้วยมาตรฐาน (International Organization for Standardization :ISO) ได้จัดทำร่างมาตรฐานระหว่างประเทศว่าด้วยการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม (ISO 26000 Social Responsibility) กระบวนการดังกล่าวได้มอบให้สถาบันรับรองมาตรฐานISO (สรอ.) เป็นผู้ดำเนินการทวนสอบสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการว่ามีการปฏิบัติที่สอดคล้องตามเกณฑ์ของมาตรฐานฯ หรือไม่ ซึ่งทาง สรอ.ได้ส่งผู้ตรวจประเมิน (Auditor) เข้าไปทวนสอบการดำเนินงานของบริษัท เอส.ที.ไรซิ่ง จำกัด ได้ผ่านตามเกณฑ์และได้รับโล่และเกียรติบัตร CSR-DIW 2555 ผู้บริหาร “เอสทีไรซิ่ง” เปิดเผยแนวทางที่เป็นตัวอย่างให้เห็นดังนี้ การดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ผู้บริหารกำหนดเรื่อง CSR ไว้ในนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัทฯ อย่างชัดเจน บริษัท เอส.ที.ไรซิ่ง จํากัด เป็นผู้ผลิตและจัดจําหน่ายน้ํายาทําความสะอาดคราบไขมัน ซิงค์ฟอสเฟตเคลือบผิวโลหะป้องกันสนิมทุกชนิด และชุบเคลือบผิวชิ้นงานงานโลหะต่างๆ มีความมุ่งมั่นในการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม โดยยึดหลักความรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้ ความโปร่งใส มีการปฏิบัติที่มี จริยธรรมเคารพต่อผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย บริษัทฯ มุ่งมั่นในการผลิต ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค และสนับสนุนให้ เกิดการบริโภคอย่างยั่งยืน รวมทั้งคํานึงผลกระทบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสําคัญ ในการปฏิบัติตามข้อกําหนดกฎหมาย และข้อกําหนดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และมุ่งมั่นให้เกิดการพัฒนา ปรับปรุงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง 1. จัดทำ “คู่มือจรรยาบรรณธุรกิจ” (Prantalay Group’s Code of Conduct ) เป็นแนวปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล สำหรับให้ผู้บริหารและพนักงานทุกคนยึดถือเป็นคุณธรรมประจำใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด 2. การบริหารจัดการตามระบบมาตรฐานสากล มีการบริหารจัดการตามระบบมาตรฐานสากลเป็นพื้นฐานการปฏิบัติงานภายในองค์กรตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา และมีฝ่ายตรวจประเมินระบบภายในทำหน้าที่ตรวจประเมินทุกหน่วยงานของบริษัทฯ เพื่อให้มีการปฏิบัติตามระบบมาตรฐานต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ และมีการพัฒนาระบบให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระบบมาตรฐานที่ใช้ มีการปฏิบัติ ทั้ง ด้านคุณภาพ เช่น ระบบการบริหารคุณภาพ (ISO 9001) และ ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น ระบบการจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อม (ISO 14001, Global Gap), ระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (มอก.18001, OHSAS 18001) 3. การจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ บริษัทฯ ได้นำระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐาน ISO 14001 มาปฏิบัติใช้ตั้งแต่ปี 2550 ทำให้ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างมากและยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการบำบัดของเสียและการใช้พลังงานของบริษัทอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้พนักงานและชุมชนเกิดจิตสำนึกและร่วมช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลังงาน ปัจจุบันปัญหาสภาวะโลกร้อนเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น บริษัทฯ ตระหนักในเรื่องดังกล่าวโดยมีการจัดทำมาตรการลดผลกระทบจากกิจกรรมของบริษัทที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ ยังมีโครงการและกิจกรรมเพื่อสังคมด้านการพัฒนาชุมชน ส่งเสริมอาหารและสุขภาพนักเรียนในหลายจังหวัด รวมทั้งโครงการหลายๆโครงการดีๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป

ชื่อผู้ตอบ: